ยังคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเขา ตอนที่ออกมาเรียกร้องให้สื่อแสดงความเคารพกับเขานั้น
เป็นแค่การแสดงต่อหน้าสื่อเท่านั้น เพราะหากไม่นับความล้อมเหลวในช่วง 2-3 ปีหลัง มูรินโญ แทบจะประสบความสำเร็จในทุกเมืองที่เขาทำงานอยู่และแม้บางครั้งจะไม่บรรลุเป้าหมายเขาก็ยังได้รับเงินจำนวนมหาศาลจากค่าชดเชยต่างๆที่ทำไว้ ดังนั้น 2 ทศวรรษที่ผ่านมาเพียงพอที่จะยืนยันได้ว่ากุนซือรายนี้เก่งในสิ่งที่ทำ อย่างไรก็ตามมีคนแนะนำว่ามันเป็นความเชื่อมั่นในตัวเองที่มากเกินไปที่ทำให้ มูรินโญ มองไม่เห็นความสำสัญของคนอื่น ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาวงการฟุตบอลนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว แต่กุนซือ 3 แชมป์พรีเมียร์ลีกยังคงใช้วิธีการเดิมๆ ทั้งเรื่องการเป็นผู้นำและการจัดการทีม คนวงในของยูไนเต็ด กล่าวว่า การไร้ความสามารถของ มูรินโญ ในการติดตามความเป็นไปนอกสนาม คือ จุดบกพร่องสำคัญส่วนหนึ่ง เขายังคงติดอยู่กับวิธีการและรูปแบบเดิมๆ ยังคงให้ความสำคัญกับการนั่งโต๊ะแถลงข่าวทั้งที่ปัจจุบันผู้จัดการทีมหลายรายให้ความสำคัญกับจุดนี้น้อยลงเรื่อยๆ มูรินโญ คล้ายจะอยู่ในช่วงที่เวลาแปรปรวน “บาลาเก ยกคำพูดของคนที่เขาคุยด้วยว่า โรลลิง สโตนส์, เดวิด โบวี, ยู 2 ยังคงประสบความสำเร็จเพราะพวกเขากล้าที่จะเปลี่ยน กลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้ยิ่งใหญ่เพียงแค่ร้องเพลงที่โด่งดังแค่เพลงเดียว อำนาจเป็นสิ่งที่ยากจะอธิบายและดูเหมือนเวลานี้ มูรินโญ ควรจะเอาใจใส่กับคนรอบข้างให้มากกว่าเดิม ผู้จัดการทีมอย่าง เกรแฮม เทย์เลอร์ และ เซอร์ บ๊อบบี รอบสัน ไม่ได้ถูกจดจำแค่ในฐานะกุนซือที่ประบความสำเร็จ แต่ยังรวมถึงสิ่งที่พวกเขาปฏิบัติต่อคนอื่นด้วย การปฏิบัติตามแนวทางของอดีตยอดกุนซือที่ยกตัวอย่างมาถือว่าคุ้มค่าเมื่อถึงวันที่ต้องอำลา และในระยะยาว มูรินโญ ควรพิจารณาถึงสิ่งนี้หากยังเป็นกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้คนคิดกับเขา จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคนที่ผ่านความสำเร็จมามากอย่าง มูรินโญ ต้องมาเจอกับทางแยกในอาชีพ ไมเคิล คลอฟิลด์ นักจิตวทิยาด้านกีฬา กล่าวว่า แม้คุณจะเป็นคนประสบความสำเร็จมามากมาย แต่เมื่อถึงจุดๆหนึ่งที่อายุของคุณไม่สามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งได้เหมือนเก่า คุณต้องใช้ความคิดที่รอบคอบอย่างหนักเพื่อค้นหาทางออกของปัญหาที่เผชิญอยู่ ผู้นำที่แท้จริงต้องการใครสักคนที่พร้อมบอกความจริงในสิ่งที่พวกเขามองไม่เห็น ความจริงข้อหนึ่งสำหรับ มูรินโญ คือ เขาเป็นผู้จัดการทีมที่มีคุณสมบัติพิเศษ แต่ปัญหาก็คือ เขามักไม่นำความสุขมาสู่ที่ทำงานและการทำทีมของผู้จัดการทีมรายนี้ดูจะไม่เป็นไปตามแนวทางที่ยั่งยืนเท่าไหร่ สิ่งที่ยากที่สุดคือการยอมรับว่าที่ผ่านมามันอาจไม่ถูกต้อง แต่ความรอบคอบและหลักแหลมของผู้ชายที่สร้างตัวเองขึ้นมาอย่าง มูรินโญ น่าจะค้นพบแนวทางใหม่ได้ไม่ยาก บทบาทต่อไปของกุนซือซึ่งได้รับการยอมรับว่าประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของโลกอาจไม่ได้ขึ้นอยู่แค่การกลับมาทวงควาสสำเร็จให้ได้อีกครั้ง เพราะอีกสิ่งที่จะถูกจับตามองเป็นพิเศษ คือ ท่าทีและการแสดงออกของกุนซือมาดโอหังจะเปลี่ยนไปอย่างไร “การยอมรับความอ่อนแอของตัวเองในบางครั้งอาจนำมาซึ่งความแข็งแกร่งกว่าที่เคยเป็นมา คลอฟิลด์ กล่าวเสริม “บางครั้งผู้นำต้องออกมาแสดงตัวและพูดว่าฉันได้ทำผิดพลาดไปแล้วและฉันกำลังเรียนรู้จากมัน
เพิ่มเติม >> https://www.stokesad.com/ufabet123-%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%84-%e0%b8%a1%e0%b8%b4%e0%b8%a5%e0%b8%a5%e0%b8%b4%e0%b9%81%e0%b8%81%e0%b8%99-%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b8%aa%e0%b9%80%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b9%80/
เป็นแค่การแสดงต่อหน้าสื่อเท่านั้น เพราะหากไม่นับความล้อมเหลวในช่วง 2-3 ปีหลัง มูรินโญ แทบจะประสบความสำเร็จในทุกเมืองที่เขาทำงานอยู่และแม้บางครั้งจะไม่บรรลุเป้าหมายเขาก็ยังได้รับเงินจำนวนมหาศาลจากค่าชดเชยต่างๆที่ทำไว้ ดังนั้น 2 ทศวรรษที่ผ่านมาเพียงพอที่จะยืนยันได้ว่ากุนซือรายนี้เก่งในสิ่งที่ทำ อย่างไรก็ตามมีคนแนะนำว่ามันเป็นความเชื่อมั่นในตัวเองที่มากเกินไปที่ทำให้ มูรินโญ มองไม่เห็นความสำสัญของคนอื่น ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาวงการฟุตบอลนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว แต่กุนซือ 3 แชมป์พรีเมียร์ลีกยังคงใช้วิธีการเดิมๆ ทั้งเรื่องการเป็นผู้นำและการจัดการทีม คนวงในของยูไนเต็ด กล่าวว่า การไร้ความสามารถของ มูรินโญ ในการติดตามความเป็นไปนอกสนาม คือ จุดบกพร่องสำคัญส่วนหนึ่ง เขายังคงติดอยู่กับวิธีการและรูปแบบเดิมๆ ยังคงให้ความสำคัญกับการนั่งโต๊ะแถลงข่าวทั้งที่ปัจจุบันผู้จัดการทีมหลายรายให้ความสำคัญกับจุดนี้น้อยลงเรื่อยๆ มูรินโญ คล้ายจะอยู่ในช่วงที่เวลาแปรปรวน “บาลาเก ยกคำพูดของคนที่เขาคุยด้วยว่า โรลลิง สโตนส์, เดวิด โบวี, ยู 2 ยังคงประสบความสำเร็จเพราะพวกเขากล้าที่จะเปลี่ยน กลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้ยิ่งใหญ่เพียงแค่ร้องเพลงที่โด่งดังแค่เพลงเดียว อำนาจเป็นสิ่งที่ยากจะอธิบายและดูเหมือนเวลานี้ มูรินโญ ควรจะเอาใจใส่กับคนรอบข้างให้มากกว่าเดิม ผู้จัดการทีมอย่าง เกรแฮม เทย์เลอร์ และ เซอร์ บ๊อบบี รอบสัน ไม่ได้ถูกจดจำแค่ในฐานะกุนซือที่ประบความสำเร็จ แต่ยังรวมถึงสิ่งที่พวกเขาปฏิบัติต่อคนอื่นด้วย การปฏิบัติตามแนวทางของอดีตยอดกุนซือที่ยกตัวอย่างมาถือว่าคุ้มค่าเมื่อถึงวันที่ต้องอำลา และในระยะยาว มูรินโญ ควรพิจารณาถึงสิ่งนี้หากยังเป็นกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้คนคิดกับเขา จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคนที่ผ่านความสำเร็จมามากอย่าง มูรินโญ ต้องมาเจอกับทางแยกในอาชีพ ไมเคิล คลอฟิลด์ นักจิตวทิยาด้านกีฬา กล่าวว่า แม้คุณจะเป็นคนประสบความสำเร็จมามากมาย แต่เมื่อถึงจุดๆหนึ่งที่อายุของคุณไม่สามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งได้เหมือนเก่า คุณต้องใช้ความคิดที่รอบคอบอย่างหนักเพื่อค้นหาทางออกของปัญหาที่เผชิญอยู่ ผู้นำที่แท้จริงต้องการใครสักคนที่พร้อมบอกความจริงในสิ่งที่พวกเขามองไม่เห็น ความจริงข้อหนึ่งสำหรับ มูรินโญ คือ เขาเป็นผู้จัดการทีมที่มีคุณสมบัติพิเศษ แต่ปัญหาก็คือ เขามักไม่นำความสุขมาสู่ที่ทำงานและการทำทีมของผู้จัดการทีมรายนี้ดูจะไม่เป็นไปตามแนวทางที่ยั่งยืนเท่าไหร่ สิ่งที่ยากที่สุดคือการยอมรับว่าที่ผ่านมามันอาจไม่ถูกต้อง แต่ความรอบคอบและหลักแหลมของผู้ชายที่สร้างตัวเองขึ้นมาอย่าง มูรินโญ น่าจะค้นพบแนวทางใหม่ได้ไม่ยาก บทบาทต่อไปของกุนซือซึ่งได้รับการยอมรับว่าประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของโลกอาจไม่ได้ขึ้นอยู่แค่การกลับมาทวงควาสสำเร็จให้ได้อีกครั้ง เพราะอีกสิ่งที่จะถูกจับตามองเป็นพิเศษ คือ ท่าทีและการแสดงออกของกุนซือมาดโอหังจะเปลี่ยนไปอย่างไร “การยอมรับความอ่อนแอของตัวเองในบางครั้งอาจนำมาซึ่งความแข็งแกร่งกว่าที่เคยเป็นมา คลอฟิลด์ กล่าวเสริม “บางครั้งผู้นำต้องออกมาแสดงตัวและพูดว่าฉันได้ทำผิดพลาดไปแล้วและฉันกำลังเรียนรู้จากมัน
เพิ่มเติม >> https://www.stokesad.com/ufabet123-%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%84-%e0%b8%a1%e0%b8%b4%e0%b8%a5%e0%b8%a5%e0%b8%b4%e0%b9%81%e0%b8%81%e0%b8%99-%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b8%aa%e0%b9%80%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b9%80/
Comments
Post a Comment